[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by
ATOMYMAXSITE 2.5
องค์การบริหารส่วนตำบลวังน้ำเย็น
ประวัติความเป็นมา
วิสัยทัศน์พันธกิจ
โครงสร้างหน่วยงานผู้บริหารอำนาจหน้าที่
ภารกิจและหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงาน
ยุทธศาสตร์ แผนพัฒนา
งบประมาณรายจ่ายประจำปี
ดาวน์โหลดใบคำรองและเอกสารต่างๆ
E-Mail Address , Social Network ของบุคลภายในหน่วยงานที่รับผิดชอบ
โครงสร้างฝ่ายบริหาร
โครงสร้างสมาชิกสภา
สำนักงานปลัด
กองคลัง
กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม
กองช่าง
ห้องสนทนาเรื่องทั่วไป
ห้องสนทนารับเรื่องราวร้องทุกข์
เว็บบอร์ด
>>
ห้องนั่งเล่น
>>
โรควิตกกังวล
VIEW : 548
โดย
ดร. ภัทร
UID :
ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว
:
122
ตอบแล้ว
:
เพศ :
ระดับ : 8
Exp : 92%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP
:
43.249.60.
xxx
เมื่อ :
พุธ ที่ 16 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2560 เวลา 18:28:37
โรควิตกกังวล
โรควิตกกังวล (
Anxiety Disorder)
คือ โรคทางจิตใจที่มีความรุนแรงกว่าความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรควิตกกังวลจะพบว่ามีความวิตกกังวลและอาการอื่น ๆ ต่อเนื่องและอาการไม่หายไป หรืออาจมีอาการที่แย่ลงได้ในที่สุด
โรควิตกกังวลทำให้เกิดอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน การเรียนหนังสือ และการรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมก็สามารถจัดการกับอาการและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
โรควิตกกังวลมีหลายประเภท เช่น โรคแพนิค (Panic Disorder) โรคกังวลทั่วไป (Generalized Anxiety Disorder: GAD) โรคกลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder) หรือโรคกลัวแบบจำเพาะ (Specific Phobias) เป็นต้น
อาการของโรควิตกกังวล
อาการของโรควิตกกังวลขึ้นอยู่กับประเภทของโรควิตกกังวล โดยอาการทางกายและใจที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป ได้แก่
§ มีอาการตื่นตระหนก กลัว และไม่สบายใจ
§ ไม่สามารถอยู่ในความสงบได้ กระสับกระส่าย กระวนกระวาย หงุดหงิด ไม่มีสมาธิ
§ มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ
§ มือและเท้าเย็น หรือเหงื่อแตก
§ หายใจตื้น
§ ใจสั่น
§ เจ็บหน้าอก
§ ปากแห้ง
§ มีอาการเหน็บชาที่มือและเท้า
§ มีอาการคลื่นไส้
§ เวียนศีรษะ
§ ปวดศีรษะ
§ กล้ามเนื้อตึงเกร็ง
§ มีความอ่อนล้า เหนื่อยง่าย
§ มีอาการสั่น
นอกจากนั้น ในแต่ละประเภทยังมีอาการเฉพาะ ดังต่อไปนี้
§
อาการของโรคแพนิค (
Panic Disorder)
เช่น เหงื่อออก เจ็บหน้าอก ใจสั่น รู้สึกสำลัก มีความรู้สึกเหมือนตนเองเป็นโรคหัวใจหรือเหมือนจะเป็นบ้า
§
อาการของโรคกังวลทั่วไป (
Generalized Anxiety Disorder: GAD)
เช่น มีความเครียดหรือมีความกังวลมากเกินไปจากความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะมีสาเหตุเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีสาเหตุที่ไปกระตุ้นให้เกิดอาการกังวลได้
§
อาการของโรคกลัวการเข้าสังคม (
Social Anxiety Disorder)
เช่น มีความกังวลที่รุนแรงมากหรือมีความระมัดระวังตัวเกินเหตุในสถานการณ์ทางสังคมต่าง ๆ ที่ต้องพบเจอตามปกติในชีวิตประจำวัน โดยความกังวลที่เกิดขึ้นมักเป็นความกลัวการตัดสินจากผู้อื่น หรือกลัวว่าจะเกิดความอับอายและถูกล้อเลียน
§
อาการของโรคกลัวแบบจำเพาะ (
Specific Phobias)
ผู้ป่วยจะมีความกลัวอย่างรุนแรงต่อสิ่งของหรือสถานการณ์เฉพาะ เช่น กลัวความสูง กลัวการเข้าสังคม และกลัวสัตว์บางชนิด ซึ่งจะกลัวในระดับที่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ปกติในชีวิตประจำวัน
สาเหตุของโรควิตกกังวล
สาเหตุของโรควิตกกังวล ไม่ได้มาจากความบกพร่องทางบุคคลิกภาพ หรือการเลี้ยงดูที่ไม่ดี แต่มีสาเหตุคล้ายกับโรคทางจิตชนิดอื่น ๆ จากการวิจัยพบว่าโรคทางจิตใจเหล่านี้เกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่ การทำงานของสมองบางส่วนที่เกิดความเปลี่ยนแปลง และความเครียดที่เกิดจากสภาพแวดล้อม
§
โครงสร้างการทำงานของสมอง
โรควิตกกังวลอาจมีสาเหตุมาจากข้อบกพร่องหรือปัญหาที่เกิดขึ้นกับการทำงานของสมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ต่าง ๆ หรือหากมีความเครียดมาก ๆ เป็นเวลานาน อาจทำให้เซลล์ประสาทและสมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากนั้น ยังพบว่าผู้ที่เป็นโรควิตกกังวลบางชนิด มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับอารมณ์และความรู้สึก
§
กรรมพันธุ์
โรควิตกกังวลเกิดได้จากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อแม่สู่ลูกทำนองเดียวกันกับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมของโรคมะเร็งและโรคหัวใจ
§
ปัจจัยที่มาจากสิ่งแวดล้อม
เช่น การได้รับบาดเจ็บ หรือประสบกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดโรควิตกกังวล โดยเฉพาะผู้ป่วยเป็นโรควิตกกังวลที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม จะมีปฏิกิริยาที่ไวต่อการถูกกระตุ้นจากปัจจัยดังกล่าว
§
ปัจจัยเฉพาะอื่น ๆ
เช่น
§ ความขี้อายหรือไม่กล้าแสดงอารมณ์ในเด็ก
§ มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ไม่ดี
§ เป็นหม้ายหรือเคยหย่าร้าง
§ ต้องพบกับเหตุการณ์ในชีวิตที่มีความตึงเครียด ทั้งในวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่
§ มีประวัติของคนในครอบครัวที่เป็นโรคทางจิตใจ
§ มีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในน้ำลายเพิ่มในช่วงบ่ายซึ่งมาจากความเครียด โดยเฉพาะกับผู้ที่เป็นโรคกลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder)
§ โรคอื่น ๆ ที่มีอาการคล้ายคลึงกับอาการของโรควิตกกังวล เช่น ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน หัวใจเต้นผิดปกติ หรือภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งเป็นกรณีที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
การวินิจฉัยโรควิตกกังวล
แพทย์จะเริ่มจากการถามประวัติทางการแพทย์ที่จำเป็น เช่น อาการที่เกิดขึ้นและโรคประจำตัว หลังจากนั้นจะตรวจร่างกายและอาจตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ตรวจสมรรถภาพปอด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และตรวจปัสสาวะ เพื่อแยกโรคอื่น ๆ ที่มีอาการคล้ายกับโรควิตกกังวล เช่น ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน โรคกระเพาะอาหารอักเสบเฉียบพลัน โรคหืด หรือหัวใจเต้นผิดปกติ หรือภาวะได้รับยาและสารเสพติดที่ทำให้เกิดอาการคล้ายโรควิตกกังวล
แต่หากไม่พบโรคทางกายใด ๆ แพทย์จะส่งตัวไปให้จิตแพทย์วินิจฉัยโดยการสัมภาษณ์ หรือใช้เครื่องมือช่วยในการประเมินโรคทางจิตใจ โดยการประเมินสุขภาพทางจิตอย่างละเอียดจะมีประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโรควิตกกังวลเป็นอย่างมากในการแยกโรคทางจิตใจ เพราะโรควิตกกังวลมักมีอาการคล้ายกับภาวะอื่น ๆ เช่น ภาวะซึมเศร้า หรือโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive-Compulsive Disorder: OCD)
การรักษาโรควิตกกังวล
การรักษาโรควิตกกังวลขึ้นอยู่กับประเภทของโรค ซึ่งวิธีที่ใช้ในการรักษาโดยทั่วไป มีดังนี้
§
จิตบำบัด (
Psychotherapy)
เป็นการรักษาด้วยการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อให้ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีรับมือกับปัญหาของโรควิตกกังวลได้ในที่สุด
§
การรักษาด้วยการเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม (
Cognitive-Behavioral Therapy)
เป็นวิธีการรักษาทางจิตที่ช่วยให้ผู้ป่วยได้เรียนรู้การปรับเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรมที่นำไปสู่ปัญหาทางอารมณ์และความรู้สึก เช่น ช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคแพนิคเรียนรู้ว่าอาการแพนิคนั้นไม่ใช่อาการของโรคหัวใจ หรือช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคกลัวการเข้าสังคมเรียนรู้ที่จะเอาชนะความเชื่อที่คิดว่าคนอื่นคอยจ้องมองหรือตัดสินตน เป็นต้น
§
การฝึกจัดการกับความเครียด
วิธีฝึกการจัดการกับความเครียดและการทำสมาธิ เป็นวิธีที่จะช่วยให้ผู้ป่วยโรควิตกกังวลมีอารมณ์ที่สงบลงและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดวิธีอื่นได้ด้วย
§
การรักษาด้วยยา
ยาที่นำมาใช้ในการรักษาและลดอาการของโรควิตกกังวล เช่น
§ ยารักษาอาการซึมเศร้า เช่น ยากลุ่มเอสเอสอาร์ไอ
§ ยาระงับอาการวิตกกังวล เช่น ยากลุ่มเบนโซไดอะซีปีน เช่น ยาอัลปราโซแลม และยาโคลนาซีแพม
§ ยาช่วยควบคุมอาการทางร่างกายเมื่อมีความวิตกกังวล เช่น ใจสั่น มือสั่น คือ ยาเบต้า บล็อกเกอร์ เช่น ยาโพรพราโนลอล
§ ยาอื่น ๆ เช่น ยารักษาโรคลมชัก และยาระงับอาการทางจิต
การใช้ยาเหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำและดุลยพินิจของแพทย์
นอกจากนั้น ยังพบว่าการออกกำลังกายด้วยวิธีแอโรบิกมีผลทำให้อาการสงบลงได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานจากการศึกษาค้นคว้าที่มากพอเพื่อนำมาเป็นหนึ่งในวิธีการรักษา รวมไปถึงควรพิจารณาที่จะหลีกเลี่ยงคาแฟอีน ยาเสพติด และยาแก้หวัดที่ซื้อตามร้านขายยาทั่วไป เพราะมีผลทำให้อาการของโรควิตกกังวลแย่ลงและที่สำคัญ คือการได้รับการสนับสนุนและกำลังใจจากคนในครอบครัวเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยโรควิตกกังวลฟื้นฟูสู่สภาพปกติได้ดี
ภาวะแทรกซ้อนโรควิตกกังวล
โรควิตกกังวลเป็นภาวะที่อาจทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เรียนหนังสือ หรือการรักษาความสัมพันธ์ให้ดี นอกจากนั้น หากไม่ได้รับการรักษาอาจเพิ่มความเสี่ยงที่รุนแรงต่าง ๆ จนถึงขั้นเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น
§
ภาวะซีมเศร้า
โรควิตกกังวลมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับภาวะซึมเศร้า ซึ่งต่างมีอาการที่คล้ายกัน เช่น ไม่มีสมาธิ กระสับกระส่าย หงุดหงิด นอนไม่หลับ และรู้สึกกังวล
§
การฆ่าตัวตาย
โรคทางจิตใจหรือโรควิตกกังวลเป็นหนึ่งในสาเหตุของการฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ โรคกลัวการเข้าสังคม หรือผู้ที่เป็นโรควิตกกังวลพร้อมกับมีภาวะซึมเศร้า จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการฆ่าตัวตายได้ หากผู้ป่วยเริ่มรู้ตัวว่าตนเองมีความคิดในการฆ่าตัวตาย ควรรีบขอรับความช่วยเหลือจากแพทย์โดยเร็ว
§
การใช้สารเสพติด
ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางจิตหรือโรควิตกกังวล มีแนวโน้มที่จะติดสิ่งเสพติดที่ให้โทษ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ หรือยาเสพติด โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วยก็ยิ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้ติดสิ่งเสพติดเหล่านี้ โดยผู้ป่วยมักใช้สิ่งเสพติดเพื่อบรรเทาอาการ
โรควิตกกังวล
HonestDocs
[url]https://www.honestdocs.co/anxiety[/url]
[url]https://www.honestdocs.co[/url]
[
อ้างอิง
]
Re หัวข้อ :
รูปประกอบ :
จำกัดขนาด 100 kB
รายละเอียด :
ใส่รหัสที่ท่านเห็นลงในช่องนี้
ชื่อของท่าน :
นับจำนวนผู้เข้าชม